ลำโพง 2.1 Sub Woofer Bluetooth
SPEAKER Bluetooth 'SAAG' SATURN (EM-3085F)
ราคา 1,250 บาท
ลำโพง 2.1 / 49w. (2x3', subx4') / Input : AUX 3.5 mm, Bluetooth / Remote
ขายเมาส์ ขายคีย์บอร์ด ขายหูฟัง ขายเกมส์มิ่งเกียร์ (ติดต่อ Line ID: pairach.aud)
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
ลำโพง 2.1 Sub Woofer Bluetooth
SPEAKER Bluetooth 'SAAG' SATURN (EM-3085F)
ราคา 1,250 บาท
ลำโพง 2.1 / 49w. (2x3', subx4') / Input : AUX 3.5 mm, Bluetooth / Remote
เพื่อนๆ อาจจะสังเกตว่าเวลาเราที่เลือกซื้อพาวเวอร์ ซัพพลาย บางครั้งจะมีตัวเลขที่เขียนระบุไว้ว่า 80 Plus Gold, 80 Plus Bronze และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งตัวเลขนี้เอง หมายถึงมาตรฐานของอุปกรณ์ ที่บ่งบอกว่า Power Supply รุ่นนี้สามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไฟที่จ่ายเข้า PSU จะมีความใกล้เคียงกับไฟที่จ่ายออกมา ซึ่งแต่ในระดับก็มีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ Mercular.com จะมาอธิบายให้เพื่อน ๆ ให้ทราบกัน ว่าเจ้ามาตรฐาน 80 Plus มันมีความสำคัญอย่างไร แตกต่างจากอุปกรณ์ทั่วไปตรงไหนบ้าง ไปรับชมกันเลยครับ
มาตรฐาน 80 Plus คือ มาตรฐานของ Power Supply ที่ใช้เรียกประสิทธิภาพในการทำงาน (Efficiency) โดยเป็นการยืนยันว่า อุปกรณ์นี้สามารถรุ่นนี้สามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการแปลงการแปลงไฟฟ้ากระแสสลับให้กลายเป็นกระแสตรง เพื่อส่งพลังงานไฟฟ้าไปให้อุปกรณ์อื่นๆ ภายในคอมพิวเตอร์ ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว เมื่อพลังงานเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้มีการสูญเสียพลังงานหรือประสิทธิภาพส่วนหนึ่งไปครับ เช่น ไฟฟ้ากระแสสลับ 115V อาจแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสตรงได้แค่ 90W เท่านั้น นั่นแสดงว่าไม่ถึงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่อุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน 80 Plus จะมีความสามารถในการแปลงกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของกระแสไฟฟ้าที่รับมาอย่างแน่นอน แถมยังช่วยในการประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วย เนื่องจากมีอัตราสูญเปล่าที่ลดลง โดยเรามักจะพบมาตรฐาน 80 Plus ได้ตามพาวเวอร์ ซัพพลายจากแบรนด์ชั้นนำ โดยมาตรฐานดังกล่าว สามารถแบ่งออกได้หลากหลายระดับด้วยกัน ยิ่งถ้ามีระดับสูงก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพดีขึ้น ประหยัดไฟได้มากขึ้น แต่ราคาก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกันครับ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถดูค่าความสามารถดังกล่าว พร้อมกับระดับขั้นทั้งหมดของมาตรฐานนี้ ได้ตามตารางข้างล่างเลยครับ
อ่านถึงตรงนี้แล้ว เพื่อนๆ หลายคน อาจจะสงสัยว่าความแตกต่างของ Power Supply ทั่วไป กับอุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐาน 80 Plus นั้นมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนในเรื่องของค่าไฟฟ้า โดยเราสามารถคำนวณเพื่อให้เห็นภาพรวมได้ดังนี้ครับ
เราสามารถแทนค่าในสมการข้างบนได้โดย ระบุว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นใช้กำลังไฟฟ้า 1000 วัตต์ พอดี (Load 100%) ซึ่งสามารถเทียบค่าที่ได้จากตารางด้านบน จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าคือ 1 เครื่อง ส่วนจำนวนชั่วโมงก็ระบุให้เปิดใช้งานที่วันละ 20 ชั่วโมง เป็นจำนวน 1 เดือน (30 วัน) ส่วนค่าไฟฟ้าคิดเป็นยูนิตละ 5 บาท
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วจะเห็นได้ชัดเลยใช่ไหมครับว่า PSU 80 Plus ระดับสูงสุดคือ Titanium ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากกว่าระดับ 80 Plus Bronze ได้ถึงเดือนละเกือบ 400 บาทเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่ายิ่งระดับสูงขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งประหยัดพลังงานได้มากกว่า เนื่องจากมีการสูญเสียพลังงานไฟฟ้า ที่ลดลงกว่าระดับต่ำลงมานั่นเองครับ
เมื่อมองถึงข้อดีที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว หากเพื่อนๆ กำลังมองหา PSU คุณภาพดีมาใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์แล้วละก็ การเลือกซื้ออุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน 80 Plus ระดับ Silver, Gold ขึ้นไป มาใช้งาน แค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ เพราะมีราคาที่ไม่สูงมาก ช่วยในการประหยัดงบประมาณของผู้ใช้งาน ซึ่งรุ่นที่แนะนำคือ Power Supply Super Flower 850W Leadex III ARGB Gold Pro แต่หากมีงบประมาณเหลือก็สามารถไปเลือกซื้อระดับ Platinum หรือ Titanium ได้เลย เพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว ถึงแม้ว่าอุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐาน PSU 80 Plus จะมีราคาสูงกว่าอุปกรณ์ทั่วไป แต่ถ้าแลกกับความสามารถในการจ่ายไฟได้อย่างเสถียร การรับประกันสินค้าที่ยาวนานยิ่งขึ้น แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย รับรองได้เลยว่าคุ้มค่ากว่า Power Supply ทั่วไป ตามท้องตลาดอย่างแน่นอนครับ